วิธีแก้ไวรัสวีดีโอ Special Video ของแชทเฟสบุ๊ค
ไวรัสวีดีโอ Special Videoของ Facebook ? ระบาดกันอีกแล้ว ระบาดกันทั่วบ้านทั่วเมืองสำหรับไวรัส Facebook ตัวใหม่ ซึ่งผมจะขอเรียกไวรัสตัวนี้ว่าไวรัส Special Video เนื่องมาจากมีเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊คกำลังประสบกับปัญหาไวรัสตัวใหม่อยู่ ซึ่งไวรัสตัวนี้จะทำการส่งข้อความแนบลิ้งพร้อมกับรูปภาพ Profile ของผู้สนทนามาทางแชท Facebook
เมื่อเราคลิกไปที่ลิ้งจะพบกับหน้าเว็บที่จะแสดงไฟล์วีดีโอ และจะมีปุ่มให้กด Play ในขณะที่เรากดปุ่ม Play นั้นเว็บบราวเซอร์จะแสดงหน้าต่าง Download ซึ่งโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมานั้นนั้นจะมีชื่อว่า install_flashplayers86x64_msd_aaa_aih.exe ซึ่งไฟล์ติดตั้งตัวนี้หากมองเผินๆ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นไฟล์ install flash player(และผมเองก็คิดเหมือนกัน) ดังนั้นเมื่อเราเข้าใจผิดว่าเป็นไฟล์สำหรับติดตั้ง flash player ที่สำหรับใช้เล่นไฟล์วีดีโอ เราจึงทำการติดตั้งไฟล์ตัวนี้โดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเป็นไวรัส Facebook
ไฟล์ไวรัสที่ได้หลังจากดาวน์โหลดลงเครื่องเรียบร้อยแล้ว
เมื่อติดไวรัสแล้วอาการจะเป็นอย่างไร ?
เมื่อเราทำการติดตั้งไฟล์ที่เป็นไรรัสแล้ว อาการแรกที่สังเกตุได้ชัดคือ Google Chrome จะทำการปิดตัวลงและเปิดขึ้นมาใหม่ ไวรัสตัวนี้จะเข้าไปฝั่งตัวอยู่ในเว็บบราวเซอร์ของ Google Chrome และติดตั้งอยู่ในส่วนขยายโดยอัตโนมัติหากเราเข้าไปที่ส่วนขยายก็จะถูกตีกลับไปยังหน้าเว็บแอพของ Google Chrome จากนั้นเมื่อมาดูหน้าตาของเว็บบราวเซอร์นั้นจะเปลี่ยงแปลงไปจากเดิม จากที่เราเคยใช้อยู่ทุกวันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากแทบแถบบุ๊กมาร์ก จะหายไป หากเเมื่อเรา Log in เข้าใช้ Facebook ไวรัสตัวนี้จะทำการส่งข้อความไปหาเพื่อนของเราโดยอัตโนมัติ โดยสังเกตุได้จากแทบ Massage ด้านบน นั้นหมายความว่าไวรัสได้เริ่มทำงานแล้ว
วิธีแก้ไขการติดไวรัส Special Video ของ Facebook ?
วิธีที่ผมจะมานำเสนอนั้นจะมีอยู่ 2 วิธี ซึ่งวิธีแรกนั้น เป็นวิธีแก้ปัญหาชั่วคราว ส่วนวิธีที่สองเป็นการแก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคน ส่วนจะเป็นวิธีไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าจะสะดวกทำวิธีไหนมากที่สุด
วิธีที่ 1 เปลี่ยนไปใช้เว็บบราวเซอร์อื่นที่ไม่ใช้ Google Chrome
ซึ่งหมายความว่า ไวรัสตัวนี้ได้เข้าไปฝังใน Google Chrome แล้ว หากเราใช้ Chrome ในการเปิดใช้งาน Facebook ไวรัสก็จะทำการส่งข้อความไปยังเพื่อนของเราในระบบ Chat หากเราใช้งานเว็บอื่นๆ ที่ไม่ใช้ Facebook ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ ถึงแม้จะไม่เข้า Facebook แต่ก็ทำไม่ให้ไม่สบายใจไปไม่น้อยเหมือนกัน แต่หากเราต้องการใช้งาน Facebook จริงๆ ให้แนะนำใช้งานเว็บบราวเซอร์อื่นๆ เช่น IE(internet explorer) Mozilla firefox Safari ฯลฯ
วิธีที่ 2 ถอนรากถอนโคน Google Chrome
- ขั้นตอนแรกเปิด Google Chrome ขึ้นมาจากนั้นไปที่ “ตั้งค่า” -> “เครื่องมือ” -> “ตัวจัดการงาน“
- ให้เลือกส่วยขยายที่เป็นไวรัสที่มีชื่อว่า “Browser Optimizer” จากนั้นกด “สิ้นสุดกระบวนการ” เพื่อเป็นการปิดส่วนขยายที่เป็นไวรัสให้หยุดทำงาน
- หากเราไม่ได้ทำการหยุดส่วนขยาย “Browser Optimizer“ เราจะไม่สามารถเข้าไปยังหน้า “ส่วนขยาย“ได้
- เมื่อเราทำการหยุดส่วนขยายที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว หลังจากนั้นเราเข้าไปที่หน้า “ส่วนขยาย” ของ Google Chrome โดยกด “Ctrl+ H” แล้วเลือก เมนู “ส่วนขยาย” จากด้านซ้ายมือ หรือไปที่ “ตั้งค่า” -> “เครื่องมือ” -> “ส่วนขยาย” และทำการลบส่วนขยายแปลกปลอมที่มีชื่อว่า “Browser Optimizer” โดยคลิกที่รูปถังขยะ ซึ่งเป็นไวรัสที่ฝังตัวเข้ามาอยู่ในระบบ “ส่วนขยาย” ของ Google Chrome
- ให้ทำการรีเซ็ตค่าทั้งหมดของเว็บบราวเซอร์โดยไปที่ “การตั้งค่า” แทบเมนูด้านซ้ายมือ เลื่อนลงมาล่างสุดให้คลิกคำว่า “แสดงการตั้งค่าขั้นสูง…”
- จากนั้นเลื่อนลงมาจะเจอกับปุ่ม “รีเซ็ทการตั้งค่าเว็บบราวเซอร์” ให้กดคลิกและกด “ตั้งค่าใหม่“
- หลังจากทำการรีเซ็ทเว็บบราวเซอร์เรียบร้อยแล้วให้เราทำการลบโปรแกรม Google Chrome ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
- โดยไปที่ “Start” -> “Control Panal” -> “Uninstall” (วิธีการใช้งาน Uninstall) เลือกที่ “Google Chrome” แล้วกด “Uninstall” เพื่อลบออกจากเครื่อง (หากใช้โปรแกรมช่วย Uninstall เช่น Revo uninstaller จะช่วยให้ลบออกได้อย่างหมดจด)
- เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ให้เราเข้าไปที่
- C:\Program Files\Google (สำหรับเครื่อง 32bit)
- C:\Program Files (x86)\Google (สำหรับเครื่อง 64bit)
- ให้ลบโฟรเดอร์ชื่อว่า Chrome ออกให้หมด
เมื่อทำตามขั้นตอนตามที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ให้ทำการ Restart เครื่องคอมพิวเตอร์ และหลังจากเปิดเครื่องขึ้นมาแล้วให้ทำการดาวน์โหลด Google Chrome(Download) ติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้ง หากทำการติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้เราเช็กดูว่าอีกครั้งว่าไวรัสได้ถูกลบออกหรือไม่ให้ไปตรง “ตั้งค่า” -> “เครื่องมือ” -> “ตัวจัดการงาน” ว่ามี “Browser Optimizer” ทำงานอยู่หรือไม่ หากไม่มีแล้ว ลองมาตรวจเช็กดูที่ “ส่วนขยาย” หากไม่เจอก็แสดงว่าเราได้ทำการลบไวรัส Facebook ออกจาก Google Chrome สำเร็จแล้วและสำคัญที่สุด ให้ทำการเปลี่ยน Password ของบัญชี Facebook ด้วยนะคับ และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์หากใครเจอเพื่อนๆ ที่ติดไวรัสก็สามารถแชร์ให้กับเพื่อนๆ ของเราได้ทราบวิธีการแก้ไข ได้เลยนะคับก่อนที่จะสายเกินแก้
ถ้าเปลี่ยนpasswordแล้วไวรัสจะยังแสดงให้เห็นในข้อความหรือfeedอยู่หรือเปล่าค่ะ
ถ้าลบพวกที่เป็นส่วนเสริมของไวรัสที่ติดอยู่ในเว็บบราวเซอร์ออก ก็ไม่เป็นแล้วคับ
ส่วนการเปลี่ยนพาสเวิคเป็นการป้องกันอีกขั้นหนึ่งคับผม